สำหรับฟรันเชสโก ตอดตินั้นเขาถือว่าเป็นนักเตะหมายเลขหนึ่งแห่งสโมสรชื่อดังอย่างโรม่าและอยู่กับทีมมายาวนานถึง30ปีเลยทีเดียว เขานั้นถือได้ว่าเป็นเจ้าของฉายาแห่งกรุงโรมและหลังจากที่เขานั้นเลิกเป็นนักเตะแล้วหลายคนก็ต่างคาดหวังว่าเขานั้นควรที่จะมีพัฒนาการและมีการเจริญเติบโตในด้านวงการฟุตบอล
ด้วยการขึ้นไปเป็นฝ่ายบริหารของสโมสรและแน่นอนว่าทุกอย่างก็เป็นไปตามอย่างที่หลายคนนั้นคาดหวังถึงแม้ว่าในที่สุดแล้วตอดติจะต้องจำใจโบกมือลาสโมสรที่ตัวเองนั้นมีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนานก็ตาม
หากย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยที่เขานั้นเริ่มต้นและเป็นนักฟุตบอลและสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งโรม่านั้นดึงตัวเขาเข้ามาสู่ทีมเยาวชนในวัย 13 ปีและมีการพัฒนาในการการเล่นฟุตบอลที่ดีมาเรื่อยๆ ทำให้โค้ชที่ได้ดูแลเขาในการฝึกฝนนั้นต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสิ่งที่เป็นพื้นฐานในเรื่องฟุตบอลหรือศาสตร์ในการเล่นฟุตบอลต่างๆ
ที่จะไปสอนเขานั้นบอกเลยว่าไม่ต้องทำไม่ต้องสอนเพราะตอดตินั้นถือว่าเป็นคนที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในด้านกีฬาฟุตบอลอย่างแท้จริงเขานั้นมีการพัฒนาที่รวดเร็ว มีการใช้เทคนิคที่ดีถือว่าเขานั้นมีคุณสมบัติทุกอย่างที่จะก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลที่ดีได้อย่างครบถ้วน เขานั้นถูกยกย่องให้เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ไหวพริบและถือได้ว่าเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดตั้งแต่โรม่านั้นจัดตั้งสโมสรมาเลยก็ว่าได้
ในช่วงวัยที่เขาอายุได้ 15 ปี เขานั้นได้ถูกดึงตัวเพื่อเข้าไปสู่ทีมการเล่นในชุด U17 ของสโมสรโรม่าและก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกเยาวชนได้สำเร็จและก็ขยับขึ้นไปเล่นในชุด U20 เขาก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงานการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ ทำให้ไม่มีสิ่งใดนั้นมาขวางกั้นความสามารถในการก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอลมืออาชีพอย่างแท้จริง ซึ่งสัญญาอาชีพครั้งแรกของเขานั้นเกิดขึ้นกับทีมโรม่าเมื่อปี 1989 ถึงแม้จะมีการทำสัญญาตั้งแต่ในปี 1989 แต่การลงเล่นจริงในนัดแรกของการเป็นนักเตะโรม่านั้นเกิดขึ้นในปี 1992
ตอดติมักจะบอกเสมอว่าที่นี่นั้นคือเมืองของเขา บ้านของเขาด้วยความสัมพันธ์ในจุดนี้ทำให้ตอดตอนั้นค่อยๆที่จะเจริญเติบโตขึ้นมาและกลายเป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของสโมสรโรม่า ซึ่งสิ่งที่หล่อหลอมให้เขานั้นเป็นตำนานของโรม่าไม่ใช่เพียงการเล่นฟุตบอลเท่านั้น แต่มันรวมไปถึงการใช้ชีวิต แนวทาง วิธีคิด ทัศนคติ และทำให้เขาเป็นชาวกรุงโรมทอย่างแท้จริงด้วย
สนับสนุนโดย สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ