นักกรีฑาสาวเบลารุสที่ลี้ภัย นำเหรียญทองมาประมูลขายเพื่อหาเงินช่วยเพื่อนร่วมชาติ

         นักกรีฑาสาวเบลารุสที่ลี้ภัย  เมื่อไม่กี่วันมานี้นักกรีฑาสาวเบลารุส  ที่ชื่อว่า  คริสซินา ซิมานุสกายา  ที่มีข่าวโด่งดังไปทั่วโลกเกี่ยวกับการที่เธอทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองและได้รับความช่วยเหลือจากประเทศไอร์แลนด์ซึ่งปัจจุบันนี้เธอได้เดินทางไปที่ประเทศไอร์แลนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยได้รับวีซ่ามนุษยธรรม

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอเดินทางไปถึงที่ประเทศไอร์แลนด์เธอก็ได้มีการทำเรื่องที่ทุกคนทั่วโลกต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันมากนั่นคือการที่เธอนั้นนำเหรียญทองที่เธอวิ่งแข่งขันกรีฑาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ได้รับรางวัลมานั้นไปทำการเปิดประมูลขายในเว็บไซต์โดยระบุว่าเธอต้องการนำเงินที่ได้จากการประมูลขายเหรียญทองของเธอในครั้งนี้ไปทำการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติของเธอคนอื่นๆซึ่งตกเป็นเหยื่อทางการเมืองไม่แตกต่างจากเธอ  

     โดย  คริสซินา ซิมานุสกายา ได้กล่าวว่าประเทศของเธอนั้นมีการปกครองภายใต้ประธานาธิบดีเพียงแค่คนเดียวมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้วซึ่งประธานาธิบดีคนนี้นั้น ได้มีอำนาจผูกขาดภายในประเทศหากใครมาวิพากษ์วิจารณ์ก็จะถูกจับกุมโดยมีนักกีฬาของทีมชาติเบลารุสหลายคนที่ถูกจับติดคุกอยู่ในตอนนี้และบางคนนั้นก็ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติซึ่งหลายคนที่ถูกดำเนินคดีหรือตัดสินการแข่งขันกีฬานั้นก็เพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นเข้าไปร่วมเดินขบวนในการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันนั่นเอง 

         สำหรับสาเหตุที่  คริสซินา ซิมานุสกายา ไม่ยอมเดินทางกลับประเทศของตนเองและต้องการไปอยู่ประเทศที่ 3 ได้ก็เพราะว่าเธอไม่พอใจเกี่ยวกับระบบการปกครองของประเทศของเธอที่ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งมานานหลายปีโดยเธอกล่าวว่าประธานาธิบดีคนปัจจุบันนี้ได้เป็นประธานาธิบดีมาตั้งแต่ช่วงประมาณปีค.ศ 1994 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ยังไม่มีใครมาดำรงตำแหน่งแทน

         คริสซินา ซิมานุสกายา กล่าวว่า ทุกครั้งที่ประเทศเบลารุสมีการเลือกตั้งนั้นปรากฏว่าประธานาธิบดีคนปัจจุบันนั้นจะได้เป็นประธานาธิบดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดซึ่งประชาชนรู้ดีว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ประธานาธิบดีคนนี้ได้เป็นก็เพราะว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งไม่เคยโปร่งใสเลยสักครั้งและเมื่อประชาชนมีการรวมตัวกันประท้วงก็จะถูกจับกลุ่ม 

         อย่างไรก็ตามล่าสุดที่เธอได้เดินทางมาแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่นเธอเองก็ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลรวมถึงประธานาธิบดีและโค้ชของเธอทำให้เธอนั้นถูกไหมหัวถูกส่งตัวกลับประเทศทันทีทั้งที่เธอนั้นยังมีการแข่งขันกีฬายังไม่เสร็จสิ้นดังนั้นเธอจึงหวาดกลัวว่าเมื่อเดินทางถึงประเทศแล้วจะถูกดำเนินคดีและถูกจับติดคุกเธอจึงได้หนีออกจากสนามบินและทำเรื่องขอลี้ภัยไปประเทศอื่นนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet บาคาร่าออนไลน์

เอฟ เอ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศอาจต้องแข่งแบบไร้คนดู เพราะโควิด-19 ระบาดหนัก

           การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศซึ่งมีการจัดตารางการแข่งขันเอาไว้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตโดยจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นในวันที่ 11 เดือนเมษายนพ.ศ 2554 นี้ซึ่งการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศปีเองจะเป็นการแข่งขันระหว่างทีมสโมสรชลบุรี  เอฟซี กับทีมสโมสร  เชียงรายยูไนเต็ด   ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้านี้แฟนบอลมีความคาดหวังว่าจะได้ไปชมการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศคู่นี้ถึงขอบสนามกันเลยทีเดียว

           อย่างไรก็ตามหลังจากที่เมื่อไม่กี่วันมานี้มีการระบาดของไวรัสโควิช- ซึ่งเป็นการระบาดมาจากสถานบันเทิงแถวทองหล่อโดยการระบาดในครั้งนี้ลุกลามไปยังหลายหน่วยงานและมีคนติดเชื้อไวรัสโควิช- แล้วหลายคนทำให้ทางด้านสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยเกรงว่าหากมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลและเปิดโอกาสให้แฟนบอลเข้าไปชมการแข่งขันฟุตบอลถึงขอบสนามนั้นจะมีอัตราความเสี่ยงสูงที่อาจจะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid ได้เนื่องจากนี้ไวรัส covid นั้นมีการระบาดอย่างหนักและมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง

            ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid ที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั้นเองทางด้านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยได้มีการออกหนังสือแจ้งความจำนงว่าการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศที่กำลังจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 11 เดือนเมษายนนี้จะเป็นการแข่งขันในรูปแบบของการแข่งแบบไร้คนดูหรือเป็นการแข่งขันแบบระบบปิดเพื่อที่จะได้ลดจำนวนประชากรที่จะเข้าไปในสนามให้น้อยลง

         เนื่องจากว่าถ้าหากยังมีการเปิดให้มีการแข่งขันแบบระบบเปิดโอกาสให้แฟนบอลได้เข้าไปชมถึงขอบสนามแล้วเราก็เชื่อว่าจะต้องมีผู้ค้ำเป็นจำนวนมากที่พากันหลั่งไหลเข้าไปเพื่อชมการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศนั่นเองซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีคนเข้าไปค่อนข้างเยอะก็จะกลายเป็นสถานที่ที่แออัดและเสียงสูงที่อาจจะมีการแพร่ระบาดของไวรัส covid ได้ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการหยุดยั้งการแพร่ระบาดดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหนก็แล้วแต่ที่มีความเสี่ยงที่จะมีคนไปรวมตัวกันหนาแน่นจะต้องมีการควบคุมความเสี่ยงมีทั้งหมด

         ถึงแม้ว่าการแข่งขันฟุตบอลนั้นจะค่อนข้างสำคัญแต่การป้องกันการระบาดของไวรัสโควิช- ก็สำคัญเช่นเดียวกันและเกมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนี้ก็เป็นการแข่งขันครั้งสุดท้ายแล้วดังนั้นจึงตัดสินใจว่าอาจจะต้องมีการแข่งขันเกิดขึ้นแต่ผู้ชมอาจจะไม่ได้เข้าไปชมในขอบสนามซึ่งสามารถดูผ่านทางออนไลน์แทนแต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่การตัดสินใจแต่ยังไม่มีการแถลงการณ์ออกมาซึ่งถ้าหากมีความชัดเจนทางด้านสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยจะมีการประกาศให้ทางแฟนบอลทราบอีกครั้งหนึ่ง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย     ufabet บาคาร่าออนไลน์